นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การคุ้มครองข้อมูล

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คาร์เชอร์

บริษัท คาร์เชอร์ รีเทล จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy) ขึ้น โดยนโยบายนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบายฯ ดังต่อไปนี้

1. คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ท่าน” หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลผู้ให้ความยินยอม

“บริษัทอื่นๆ ในเครือเดียวกัน” หมายถึงบริษัทที่บริษัทฯ ถือหุ้นของบริษัทนั้นอยู่ หรือบริษัทนั้นถือหุ้นของบริษัทฯ อยู่

“คุกกี้ (Cookie)” หมายถึง ไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่มีไว้สำหรับเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานเว็บไซต์โดยที่เว็บไซต์จะส่งคุกกี้ส่งเข้ามาเก็บไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารของท่านในขณะที่ท่านกำลังใช้งานเว็บไซต์ซึ่งคุกกี้จะมีทั้งแบบที่จะหมดอายุทันทีที่ท่านปิดโปรแกรม Browser ที่ใช้งาน และแบบที่จะคงอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารของท่านจนกว่าท่านจะลบคุกกี้นั้นออกไป

 

2. ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลฯ ของท่าน (ก) ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในหนังสือให้ความยินยอมฉบับนี้ และ/หรือ (ข) ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการให้ความยินยอมตามข้อ (ก) นั้นท่านสามารถเพิกถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ แต่การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อความยินยอมที่ท่านได้ให้ไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

3. การได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากท่านโดยตรง
ข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งอื่น
ข้อมูลจากเว็บไซต์ (เข่น เว็บไซต์ทาง social media)
ข้อมูลอื่นๆ ที่จัดเก็บโดยเทคโนโลยีการสื่อสาร
บริษัทฯ อาจใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานของท่านให้ดียิ่งขึ้นแต่ท่านสามารถปิดการใช้งานหรือปฏิเสธการติดตั้งคุกกี้ได้โดยการตั้งค่าในเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารที่ท่านใช้งาน แต่โปรดตระหนักว่าการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้หรือใช้งานได้อย่างจำกัด

 

4. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จัดเก็บ

> ชื่อ-นามสกุล เพื่อยืนยันตัวตน, เพื่อให้บริการ, เพื่อส่งเสริมการขายและการตลาด, เพื่อแจ้งข่าวสารและปรับปรุงข้อมูลใหม่ เช่น จดหมายข่าว แบบสอบถาม

> เบอร์โทรศัพท์ เพื่อใช้สำหรับการติดต่อ, เพื่อให้บริการ, เพื่อส่งเสริมการขายและการตลาด, เพื่อแจ้งข่าวสารและปรับปรุงข้อมูลใหม่ เช่น จดหมายข่าว แบบสอบถาม

> หมายเลขบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนสำหรับการให้บริการหรือการติดต่อสื่อสาร
เพื่อตรวจจับและป้องกันการทุจริตจากการกระทำของผู้ไม่ประสงค์ดี

> ที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email Address) เพื่อใช้สำหรับการติดต่อ, เพื่อใช้สำหรับการติดต่อกับท่านเกี่ยวกับบัญชีของท่านที่มีอยู่กับบริษัทฯ เช่น การยืนยันการลงทะเบียนเปิดลูกค้าใหม่, เพื่อให้บริการ, เพื่อส่งเสริมการขายและการตลาด, เพื่อแจ้งข่าวสารและปรับปรุงข้อมูลใหม่ เช่น จดหมายข่าว แบบสอบถาม

> ที่อยู่ตามไปรษณีย์สำหรับการส่งจดหมาย หนังสือ และการแจ้งข้อมูลต่างๆ เพื่อสำหรับการติดต่อ, เพื่อการจัดส่งเอกสาร/วัสดุ/สิ่งของ ประเภทต่างๆ, เพื่อให้บริการ, เพื่อส่งเสริมการขายและการตลาด, เพื่อแจ้งข่าวสารและปรับปรุงข้อมูลใหม่ เช่น จดหมายข่าว แบบสอบถาม

> วันเดือนปีเกิด เพื่อยืนยันอายุของท่าน, เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น

> ประวัติการซื้อสินค้า/รับประกันสินค้า เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานแสดงการซื้อสินค้าหรือรับบริการของบริษัทฯ, เพื่อเก็บเป็นหลักฐานแสดงการรับประกันสินค้าของบริษัทฯ

> ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง เพื่อเป็นการยืนยันที่อยู่และสำนักงาน

 

5. ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลฯ

ท่านตกลงยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการใช้บริการของท่าน และยินยอมให้บริษัทฯ ส่ง โอน ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลฯ ให้แก่บริษัทอื่นๆ ในเครือเดียวกัน ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายในและผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัทฯ สถาบันการเงิน หน่วยงานราชการ ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ นิติบุคคลหรือบุคคลใดๆ ที่บริษัทฯ เป็นคู่สัญญาหรือมีความสัมพันธ์/นิติสัมพันธ์ด้วยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมเพื่อวัตถุประสงค์ในการขายสินค้า ให้บริการ วิเคราะห์ข้อมูล ปรับปรุงคุณภาพสินค้าหรือการให้บริการ เพื่อตรวจสอบรายการธุรกรรมที่อาจบ่งชี้ถึงการทุจริต และ/หรือ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าหรือให้บริการระหว่างท่านกับบริษัทฯ และ/หรือ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
ท่านยอมรับว่าเอกสารใดๆ ก็ตามที่บริษัทฯ ได้จัดทำหรือรวบรวมขึ้นอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลหรือมีข้อมูลส่วนบุคคลถูกบันทึกอยู่ในนั้นทั้งที่ได้เขียนไว้บนเอกสารกระดาษ บันทึกเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และ/หรือ สื่อรูปแบบอื่นๆ ถือว่าเป็นเอกสารและหลักฐานที่มีผลสมบูรณ์และผูกพันตามกฎหมายแม้ว่าท่านจะไม่ได้ลงนามในเอกสารเหล่านั้นก็ตาม

 

6. การสื่อสารทางการตลาด

บริษัทฯ อาจจะส่งจดหมาย ข่าวประชาสัมพันธ์ และการสื่อสารประเภทอื่นๆ ทั้งในรูปแบบเอกสารกระดาษและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการส่งข้อความ เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ หรือแจ้งข่าวสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ

แต่หากท่านไม่ประสงค์จะได้รับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวท่านสามารถแจ้งยกเลิกการรับข้อมูลสื่อทางการตลาดเหล่านั้นได้ตามวิธีการขั้นตอนที่ระบุในเอกสารที่ส่งมานั้นหรือช่องทางอีเมล Info.Thailand@karcher.com

 

7. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพียงเท่าที่จำเป็น (1) ตามวัตถุประสงค์การใช้งานข้อมูลฯ (2) ตามที่กฎหมายกำหนด และ/หรือ (3) ตามความจำเป็นทางเทคนิค

 

8. ความปลอดภัยของข้อมูล

บริษัทฯ จะใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสมในการดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลโดยปฏิบัติตามวิธีการและหลักการที่ถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอก (ที่ไม่มีสิทธิตามกฎหมาย) เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามท่านยอมรับว่าไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยใดที่สามารถป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างสมบูรณ์ และหากท่านมีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ มีข้อบกพร่องหรือมีความเสี่ยงที่จะมีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถแจ้งให้บริษัทฯ ทราบได้ทันทีตามช่องทางการติดต่อที่ระบุในข้อ 11

 

9. สิทธิของท่าน

ในการให้ความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลฯ นั้น ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในการขอถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้ตามหนังสือฉบับนี้ (ตามวิธีการที่ระบุในข้อ 2)
สิทธิขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บในอุปกรณ์ที่ทำงานอัตโนมัติในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติตลอดจนมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน หรือ ขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ หรือ ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรงยกเว้นโดยสภาพทางเทคนิคแล้วไม่สามารถทำได้
สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
มีสิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงับใช้ข้อมูล
มีสิทธิร้องขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
มีสิทธิร้องเรียนในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
(ท่านสามารถดูรายละเอียดในเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ใน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562)

 

10. เรื่องอื่นๆ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและหนังสือให้ความยินยอมฉบับนี้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายไทย
บริษัทฯ มีสิทธิแก้ไขเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่บริษัทฯ เห็นสมควรโดยที่ท่านสามารถตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ
11. ช่องทางการติดต่อกับบริษัทฯ
หากท่านมีความประสงค์จะติดต่อกับบริษัทฯ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิต่างๆ ของท่านตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

 

11. ช่องทางการติดต่อบริษัท

ฝ่ายการตลาดและอีคอมเมิร์ซ
บริษัท คาร์เชอรื รีเทล จำกัด
ที่อยู่ 1005 ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง จังหวัดกรุงเทพฯ 10250
โทรศัพท์  020212838
อีเมล Info.Thailand@karcher.com

 

นายศรัณย์ ซื่อสัตย์สกุลชัย

ผู้จัดการทั่วไป / กรรมการบริษัท

ประกาศ ณ วันที่ 20 มกราคม 2565
เลขที่ KARCH/HR/PDPA20222001